วันอังคารที่ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2553

ประสบการณ์จากคนเรียนพยาบาล

เรียนพยาบาลดีอย่างไร

ทำไมถึงเลือกเรียนพยาบาล??

คำถามที่มักมีคนถามเสมอ ๆ ตั้งแต่วันสอบสัมภาษณ์ ตอนเข้ามาเรียนพยาบาล ตอนฝึกงานบนหอผู้ป่วย (ward) หรือแม้แต่ตัวฉันเองก็เคยถามคำถามนี้กับตัวเองเหมือนกัน..

ตอนที่สอบสัมภาษณ์จำได้ว่า ตอบไปว่าเพราะพยาบาลเป็นอาชีพที่หางานง่าย รายได้ดี ได้ใช้ความรู้ความสามารถทั้งในการปฏิบัติงานและในชีวิตประจำวัน และก็ยังเป็นอาชีพที่ทำแล้วได้บุญ(อันนี้ท่านแม่บอกมา)

พอเข้ามาเรียน ได้มาสัมผัสกับชีวิตพยาบาลมากขึ้น ก็เริ่มรู้สึกว่าพยาบาลก็ดีนะ รู้อะไรตั้งหลายอย่าง แต่ก่อนคิดว่าพยาบาลคงมีแต่ให้ยา กับให้การพยาบาลเท่านั้น แต่จริงๆ แล้วพยาบาลมีบทบาทตั้งหลายอย่าง นอกจากจะให้การรักษาพยาบาลแล้ว ยังมีการป้องกันโรค การส่งเสริมและฟื้นฟูสุขภาพ การดูแลด้านจิตสังคม และการคงไว้ซึ่งสุขภาพที่ดี

เมื่อพูดถึงพยาบาลหลายคนคงนึกถึงมิสฟลอเรนซ์ไนติงเกล หรือ Lady of the Lamp เธอคือผู้นำให้คนทั้งโลกเห็นถึงความสำคัญของวิชาชีพการพยาบาล เธอยังทำให้หลายคนมองภาพลักษณ์ของพยาบาลในแง่ที่ดีขึ้น และเป็นแบบอย่างลักษณะพยาบาลที่ดีให้แก่พยาบาลรุ่นต่อ ๆมา แต่เธอก็ไม่ใช่พยาบาลคนแรกของโลก เพราะพยาบาลเกิดขึ้นตั้งแต่สมัยดึกดำบรรพ์ เนื่องจากมนุษย์ต้องประสบกับภาวะเกิด แก่ เจ็บ ตาย จึงต้องมีผู้ที่จะให้การดูแลในขณะที่ตนไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้ ซึ่งหน้าที่ดูแลผู้อื่นที่ดีที่สุด ก็มักเป็น แม่ ที่ให้การดูแลสมาชิกทุกคนในบ้านเท่าที่จะเป็นไปได้ ดังนั้นการพยาบาลจึงเริ่มต้นที่ครอบครัว

การพยาบาลไม่ใช่บริการเฉพาะผู้ป่วยที่อยู่ในโรงพยาบาลเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงการดูแลครอบครัวผู้ป่วยและดูแลประชาชนในชุมชนด้วย ตอนฉันเด็ก ๆ ฉันเคยได้รับวัคซีน ทั้งฉีดและหยอด ได้รับการตรวจสุขภาพฟันที่โรงเรียน ตลอดจนได้เห็นมีพยาบาลมาทำการอบรมให้ความรู้ในเรื่องของการดูแลสุขภาพตามสถานที่ต่าง ๆ

นอกจากนี้พยาบาลยังเป็นคนกลางที่จะสื่อความต้องการของผู้ป่วยไปยังบุคคลที่เกี่ยวข้อง เช่น แพทย์ ครอบครัวผู้ป่วยเอง เพราะพยาบาลมีโอกาสใกล้ชิด ดูแลผู้ป่วยและญาติมากกว่าบุคคลอื่น นอกจากนี้พยาบาลยังเป็นผู้ประสานงานในทีมสุขภาพ ได้แก่ แพทย์ พยาบาลด้วยกันเอง โภชนากร เภสัชกร นักกายภาพบำบัด นักสังคมสงเคราะห์ หรือเจ้าหน้าที่อื่น ๆ ด้วย

และการที่จะไปดูแลผู้อื่นตัวเราเองก็จะต้องมีความรู้ ความสามารถในด้านต่าง ๆดังที่กล่าวมา และมีความชำนาญในด้านสุขภาพ เพื่อที่จะไปดูแลและให้ความรู้แก่บุคคลอื่นได้ ณ จุดนี้เอง เป็นข้อดีของการเรียนพยาบาล เพราะเราจะมีความรู้สามารถนำไปดูแลตัวเราเอง เพราะสุขภาพเป็นเรื่องใหญ่ที่ควรใส่ใจ ถ้ามีปัญหาสุขภาพเกิดขึ้น ก็อาจทำให้เกิดมีปัญหาอื่น ๆเช่น ปัญหาครอบครัว ปัญหาเศรษฐกิจ ปัญหาสังคม ตามมาได้ ชีวิตเรานี้หากวันหนึ่งเจ็บป่วยไม่มีใครมาดูแลก็ขอให้สามารถดูแลตนเองได้เถอะค่ะ และจะได้ไม่ตกเป็นเหยื่อของโมษณาชวนเชื่อที่อวดอ้างเกินความเป็นจริงได้ ผลดีอีกอย่างคือสามารถดูแลคนในครอบครัวเราหรือคนรอบข้างเรา และคนที่เรารักได้ด้วย โดยส่วนตัวของฉันแม่นี่ดีใจมากพอรู้ว่าลูกติดพยาบาล เป็นความภูมิใจของทางบ้านด้วยค่ะ

แบบประเมินเบื้องต้นก่อนคิดเรียนพยาบาล

คำถาม:
1. คุณมีอารมณ์เศร้า สะเทือนใจทุกครั้งที่พบเห็นผู้คนประสบเหตุลำบาก
A. ใช่ B. ไม่ใช่
2.เพื่อนๆและบุคคลรอบข้างมักพูดว่าคุณช่างเป็นคนมองโลกในแง่ดี
A. ใช่ B. ไม่ใช่
3.คุณชอบดูหนังสือหรือรายการเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์หรือความเป็นเหตุเป็นผล
A. ใช่ B. ไม่ใช่
4.คุณสังเกตได้ว่ามักมีผู้คนเข้ามาทักทายหรือขอความช่วยเหลือจากคุณทั้งๆที่บางคนคุณเองก็ไม่รู้จัก A. ใช่ B. ไม่ใช่
5.คุณมีความเชื่อมั่นในตัวเองสูงพยายามแก้ปัญหาทุกอย่างด้วยตนเอง
A. ใช่ B. ไม่ใช่
6.คุณเบื่อและหลบหลีกทุกเรื่องที่มีความซับซ้อนยุ่งยากมากกว่าจะคิดเข้าไปแก้ปัญหาอย่างจริงจัง
A. ใช่ B. ไม่ใช่ C.บางครั้ง
7.ขณะที่คุณกำลังพักผ่อนในสวนสาธารณะคุณพบว่ามีเด็กเล็ก 3-4 คนกำลังส่งเสียงเจี๊ยวจ๊าววิ่งเล่นซุกซนใกล้ๆคุณ คุณจะทำอย่างไร
A. ลุกขึ้นเดินจากไปด้วยความรู้สึกรำคาญ B. นั่งมองดูเด็กๆเล่นเดี๋ยวก็คงหยุดซุกซนไปเอง
8.ในชีวิตประจำวันของคุณสิ่งที่ขาดไม่ได้มากที่สุดคือ
A. อ่านหนังสือ ติดตามข่าวสาร B.พักผ่อน ฟังเพลง
9.เมื่อคุณผิดหวังเสียใจจากการกระทำบางอย่างที่คุณทำไปด้วยความหวังดีต่อผู้อื่น แต่เขากลับมองไม่เห็นคุณค่า คุณจะทำอย่างไร
A. พูดให้เขารู้สำนึกจะได้ไม่กระทำอย่างนั้นอีก B.วางเฉยพยายามทำความเข้าใจในมุมมองของเรา
10.คุณมีปัญหาสุขภาพเรื้อรังจำเป็นที่จะต้องได้รับการรักษาเป็นพิเศษหรือไม่
A. ใช่ B. ไม่ใช่
11.คุณเป็นคนพูดจาตรงไปตรงมาหรือพูดจาแบบขวานผ่าซากจนเพื่อนๆและผู้ใกล้ชิดสะเทือนใจบ่อยๆหรือไม่
A. ใช่ B. ไม่ใช่
12.คุณเป็นคนรักศักดิ์ศรีไม่ยอมให้ใครมาดูถูกเป็นอันขาด
A. ใช่ B. ไม่ใช่
13.หากคุณมีโอกาสได้ไปฝึกงานโรงพยาบาลคุณจะเลือกงานใด
A. ช่วยวัดปรอทและความดันหิต B. ช่วยทำความสะอาดร่างกายผู้ป่วย
C. สัมภาษณ์ D. เป็นเพื่อนรับฟังและพูดคุยกับผู้ป่วย
14. ภาพลักษณ์ที่เกี่ยวกับคุณที่เพื่อนๆหรือญาติสนิทมองว่าคุณเป็นคนแบบใด (เลือกได้หลายคำตอบ)
A.ใจดี B.เจ้าระเบียบ C.ขี้โมโห D.รอบคอบ E.เสียสละ F.อดทน
G.รักพวกพ้อง H.บุคลิกดี I. หลบงาน J.เข้มแข็ง K.เลื่อนลอย L.พูดจาดี
M. เรียบง่าย N.ขี้โรค O.สะอาด P.ตื่นสาย Q.ชอบแต่งตัว R.ใจร้อน
S.ทันสมัย T.ไม่ยอมคน U.ทำงานเก่ง V.ขี้เหนียว W.ตรงต่อเวลา X.มีความรับผิดชอบสูง

เฉลย:
1. ใช่=1 ไม่ใช่=0 แสดงถึงความมีเมตตา
2.ใช่=1 ไม่ใช่=0 เป็นคนไม่เก็บกดหรือปล่อยวาง
3.ใช่=1 ไม่ใช่=0 มีเหตุผล ไม่งมงาย
4.ใช่=1 ไม่ใช่=0 บอกถึงลักษระความเป็นมิตรหรือเป็นคนใจดี
5.ใช่=1 ไม่ใช่=0 มีความเป็นผู้นำกล้าตัดสินใจ
6.ใช่=0 ไม่ใช่=1 บางครั้ง=1 เป็นคนสู้งานและมีความรับผิดชอบ
7.ลุกขึ้นเดินจากไป=0 มีความอดทนน้อย /นั่งต่อ มองดูเด็กๆ=1 มีความรักและเข้าใจเด็ก
8.อ่านหนังสือ=1 พักผ่อน=0 พัฒนาตนเองให้ก้าวทันวิทยาการและเหตุการณ์
9.พูดให้รู้สำนึก=0 วางเฉย=1 รู้จักให้อภัย เข้าใจ ยอมรับในความแตกต่างเฉพาะบุคคล
10.ใช่=0 ไม่ใช่ =1 มีสุขภาพแข็งแรงไม่เจ็บป่วยด้วยโรคเรื้อรังอันจะเป็นอุปสรรคในการปฏิบัติงาน
11.ใช่=0 ไม่ใช่ =1 ต้องคิดถึงจิตใจผู้อื่นระมัดระวังคำพูดใช้วาจาสุภาพ
12.ใช่=0 ไม่ใช่ =1 มีความอดทนต่อสิ่งที่มากระทบเพื่อรักษาความถูกต้องที่ดีงาม
13.สัมภาษณ์ =1 ข้ออื่นๆ=2 เพราะเป็นงานที่พยาบาลต้องทำหรือเกี่ยวข้อง
14.ข้อละ 3 คะแนน
ใจดี เสียสละ สะอาด ทำงานเก่ง ตรงต่อเวลา เจ้าระเบียบ รอบคอบ อดทน เข้มแข็ง รับผิดชอบสูง บุคลิกดี
ข้อละ 2 คะแนน
เรียบง่าย ทันสมัย พูดจาดี
ข้อละ 1 คะแนน
รักพวกพ้อง ชอบแต่งตัว ขี้เหนียว
ข้อละ 0 คะแนน
ขี้โมโห เลื่อนลอย ขี้โรค ตื่นสาย ใจร้อน ไม่ยอมคน หลบงาน

31-45 คะแนน
คุณสามารถประสบความสำเร็จและก้าวหน้าในวิชาชีพพยาบาลเพราะมีคุณสมบัติที่เพียบพร้อมด้วยความรัก มีเมตตาต่อเพื่อนมนุษย์ คุณสามารถมีความสุขในชีวิตและงานที่ทำได้อย่างยั่งยืน เป็นพยาบาลที่สังคมต้องการเป็นอย่างยิ่ง

20-30 คะแนน
คุณอาจคิดเพียงเพื่อมาแวะพักในวิชาชีพพยาบาลเพื่อรอหาทางเลือกที่ดีกว่าหรือคุณต้องการเสียสละเพื่อความต้องการของคนที่คุณเคารพรัก คุณจะไม่มีความผูกพันหรือความภาคภูมิใจในวิชาชีพนี้มากนัก แต่ก็ยังคิดว่าคุณก็ทำได้ถึงแม้จะไม่ดีเลิศก็ตาม แต่ก็ยังมีโอกาสประสบความก้าวหน้าและความสุขหากคุณคิดจะจริงจังกับอาชีพนี้

ต่ำกว่า 20 คะแนน
คุณคงหาความสุขและความก้าวหน้าในวิชาชีพนี้ได้ยาก เพราะทัศนคติและบุคลิกส่วนตัว คุณอาจจะเสียเวลาถ้าคิดจะเป็นพยาบาล เว้นเสียแต่ว่าคุณจะกลับไปพิจารณาหัวข้อคำตอบในแบบสอบถามทั้ง 14 ข้ออีกครั้งและคิดว่าพอจะปรับตัวในข้อใดได้บ้าง แต่ต้องพิจารณาตนเองอย่างซื่อสัตย์ไม่เอนเอียง เพราะคำตอบทุกข้อที่บ่งบอกคะแนน คือ แนวทางบอกคุณสมบัติเบื้องต้นที่สำคัญของบุคคลที่จะเป็นพยาบาล

หลังจากประเมินตัวเองแล้วถ้าน้องๆที่มุ่งมั่นจะเป็นพยาบาลในอนาคตก็ควรเริ่มหาข้อมูลและความรู้เกี่ยวกับการเข้าศึกษาเล่าเรียนในสถาบันทางการพยาบาล และสู้ต่อไปนะคะ

วันอังคารที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2553

วิชาชีพพยาบาล

วิชาชีพพยาบาล

ผู้ปฏิบัติอาชีพนี้ ทำหน้าที่ให้การรักษาพยาบาล และดูแลผู้ป่วยทั้งทางกายและจิต ผู้ได้รับบาดเจ็บ หรือทุพพลภาพ รักษาและป้องกันโรค และการส่งเสริมสุขภาพ วางแผนและให้บริการด้านพยาบาล และทำหน้าที่ช่วยแพทย์ ในโรงพยาบาล หรือสถานพยาบาล


ลักษณะของงานที่ทำ


รักษา ดูแล และให้คำแนะนำเกี่ยวกับการพยาบาล เป็นผู้ช่วยแพทย์ โดยการสังเกต และบันทึกความเปลี่ยนแปลงในคนไข้ รายงานให้แพทย์ทราบถึงอาการของคนไข้ตามลักษณะโรคที่เป็นทั้งร่างกาย อารมณ์ และจิตใจ ช่วยฟื้นฟูสุขภาพของคนไข้ ช่วยคนไข้ให้ปรับตัวเข้ากับภาวะขัดข้องใดๆ ที่อาจเกิด จากการเจ็บป่วย จัดให้คนไข้ มีสิ่งแวดล้อมที่ถูกสุขอนามัย ป้องกันและควบคุมการเผยแพร่ของโรคติดเชื้อ สอนคนไข้ และประชาชนทั่วไปให้รู้จักการดูแลและส่งเสริมสุขภาพวางแผน มอบหมาย สั่งการ ดูแล และประเมินผลงานของผู้ช่วยพยาบาล และผู้ทำหน้าที่ประสานงาน ร่วมงานกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายการแพทย์ และอนามัยแขนงอื่นๆ ในการบริการคนไข้


คุณสมบัติของผู้ประกอบอาชีพ


1. สำเร็จการศึกษา พยาบาลศาสตร์ต่อเนื่อง หรือพยาบาลศาสตร์

2. มีสุขภาพสมบูรณ์ ทั้งร่างกายและจิตใจ ไม่พิการหรือทุพพลภาพ ปราศจากโรค (อันเป็นอุปสรรคต่อการปฏิบัติงาน)

3. มีจิตใจเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ไม่รังเกียจผู้เจ็บป่วย มีความเมตตา และมีความรักในเพื่อนมนุษย์มีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี

4. มีความอดทน อดกลั้น และมีความกล้าในการตัดสินใจ

5. มีความคล่องตัวในการปฏิบัติงาน

6. มีความเสียสละที่จะเดินทางไปรักษาพยาบาลผู้คนในชุมชนทั่วประเทศ


ผู้ที่จะประกอบอาชีพนี้ ควรเตรียมความพร้อมดังต่อไปนี้: เมื่อสำเร็จการศึกษาในหลักสูตรมัธยมศึกษาตอนต้น จะต้องเลือกเรียน/ศึกษาต่อในระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย (สายวิทยาศาสตร์) จากนั้นจึงจะทำการสอบคัดเลือกเข้าศึกษาต่อในสาขาวิชาพยาบาลของมหาวิทยาลัยต่างๆ ที่สังกัดทบวงมหาวิทยาลัยหรือมหาวิทยาลัยเอกชน ทั้งนี้การศึกษาในระดับมัธยมศึกษาตอนปลายจะต้องมีผลการเรียนวิชาฟิสิกส์ เคมีชีววิทยา ค่อนข้างดีด้วย

การเรียนพยาบาล

การเรียนพยาบาล

ชั้นปีที่1 เทอมที่1 เป็นการเรียนแบบพื้นฐานมากเป็นวิชาที่ช่วยให้เรามีเกรดเฉลี่ยทั้งชั้นปีค่อนข้างสูง การเรียนยังไม่ค่อยมีวิชาคณะ เทอมนี้มีทั้งหมด 19 หน่วยกิต
ได้แก่วิชา ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร 3 หน่วยกิต
ภาษาไทยทางวิชาการ 3 หน่วยกิต
ทักษะการรู้สารสนเทศ 3 หน่วยกิต
การประยุกต์คณิตศาสตร์และสถิติในชีวิตประจำวัน 3 หน่วยกิต
ชีวิตกับเทคโนโลยีสมัยใหม่ 3 หน่วยกิต
กิจกรรมพละศึกษา 1 หน่วยกิต
วิชาชีพการพยาบาล 1 หน่วยกิต(เป็นวิชาคณะเรียนง่ายแต่ ได้Aยากมาก)
และ วิชาเลือกเสรี 2 หน่วยกิต

ชั้นปีที่1 เทอมที่2มีดังนี้
1.ภาษาอังกฤษทางวิชาการ 3หน่วยกิต
2.ทักษะชีวิต 3หน่วยกิต(มาสัมผัสเอง)
3.สารสนเทศทางการพยาบาลขั้นพื้นฐาน 2 หน่วยกิต
4.กายวิภาคศาสตร์สำหรับพยาบาล(อนาโตมี่) 4 หน่วย
5.จุลชีววิทยาสำหรับพยาบาล(microbiology for nurse) 3 หน่วยกิต
6.ชีวเคมีสำหรับพยาบาล(biochemistry for nurse) 3 หน่วยกิต

............................ปีสอง ...............
เทอม1
1.การบำบัดทางการพยาบาล
2.การประเมินภาวะสุขภาพ
3.การพยาบาลสุขภาพผุ้ใหญ่1
4.การพยาบาลสุขภาพเด็ก1
5.ปฎิบัติการพยาาบาล1(ฝึกงานนั่นแหละ สองวันต่อสัปดาห์)
6.ปรสิตวิทยาสำหรับพยาบาล(ภาคต่อmicrobiology)
7.พยาธิวิทยาสำหรับพยาบาล(การเกิดโรค ว่างั้นนน)
8.เภสัชวิทยาสำหรับพยาบาล1

เทอม2
1.ชีวิตกับสิ่งแวดล้อม
2.โภชนศาสตร์และโภชนบำบัด
3.การพยาบาลสุขภาพผู้ใหญ่ 2
4.การพยาบาลสุขภาพผู้สูงอายุ
5.การพยาบาลสุขภาพเด็ก2
6.การพยาบาลสุขภาพจิต
7.ปฏิบัติการพยาบาล2
8.การส่งเสริมสุขภาพ
9.เภสัชวิทยาสำหรับพยาบาล2

ซัมเมอร์ ปี2
1.ภาษาอีงกฤษทางวิชาการ2
2.การสื่อสารทางการพยาบาล

...............................ปี3................
เทอม1
1.การบริหารงานพยาบาล
2.กฏหมายและจริยธรรมในการประกอบวิชาชีพการพยาบาล
3.การพยาบาลจิตเวช
4.การพยาบาลสุขภาพชุมชน1
5.การผดุงครรภ์1
6.ปฏิบัติการพยาบาล3
7.ภาษาอังกฤษเทคนิคสำหรับพยาบาลศาสตร์
8.วิชาเลือกเสรี

เทอม2....
1.การรักษาโรคเบื้องต้นสำหรับพยาบาล
2.การวิจัยทางการพยาบาล
3.การพยาบาลสุขภาพชุมชน2
4.การผดุงครรภ์2
5.ปฏิบัติการพยาบาล4

.......ซัมเมอร์
1.ปฏิบัติการพยาบาล5
2.วิชาเลือกเสรี............
.

........................ปีสี่.............
เทอม1....
1.หลักการจัดการสมัยใหม่
2.ปฏิบัติการผดุงครรภ์1(ทำคลอด ว่าซั่นนน)
3.โครงการพยาบาลสำหรับประเด็นปัญหาสุขภาพที่คัดสรร
4.สัมนาวิชาชีพการพยาบาล


เทอมสอง....
1.ปฏิบัติการพยาบาลรวบยอด
2.ปฏิบัติการผดุงครรภ์2
พี่ปี4 จะต้องเตรียมตัวสำหรับสอบเพื่อรับใบประกอบวิชาชีพด้วยยย ซึ่งใบประกอบวิชาชีพนี้ มีเพียงไม่กี่คณะเท่านั้นที่มี เป็นการบ่งบอกถึง สาขาอาชีพนั้น มีองค์ความรู้ที่ได้รับการจัดการมาอย่างดี เพื่อไม่ให้หน้าที่มีการทับซ้อนกับวิชาชีพอื่น หรือเรียกง่ายๆว่า หน้าที่ใครหน้าที่มัน...แต่ฉันก็รู้หน้าที่เธอนะ....ทำให้การทำงานมีขอบเขตที่ชัดเจนนั่นเอง ดังนั้นจึงไม่มีใครเป็นลูกน้องใครไม่มีใครเป็นคนใช้ใคร เราทำหน้าที่เสริมกัน และ จึงเปลี่ยนจากคำว่า อาชีพ เป็น วิชาชีพ
มีคณะไหนบ้างที่มีใบประกอบวิชาชีพ
1.คณะแพทย์
2.ทันตะ
3.พยาบาล
4.สัตวแพทย์
5.เภสัช
6.เทคนิคการแพทย์
7.กายภาพบำบัด

ความรู้พยาบาล

อาชีพพยาบาลมีหน้าที่ให้บริการพยาบาลระดับวิชาชีพแก่ผู้ป่วยทางกายหรือทางจิต ผู้ได่รับบาดเจ็บหรือทุพพลภาพ และผู้สูงอายุในสถาบันที่มีการรักษา การป้องกันโรค การส่งเสริมสุขภาพ วางแผนและให้บริการด้านพยาบาลสมบูรณ์แบบตามหลักวิทยาศาสตร์ โดยคำนึงถึงความต้องการของแต่ละคนตามลักษณะของโรคที่เป็น สังเกตและบันทึกความเปลี่ยนแปลงในคนไข้รายงานให้แพทย์ทราบ การเกิดอาการผิดธรรมดาของร่างกาย อารมณ์ และจิตใจ ซึ่งมีความสำคัญในการวินิจฉัยโรค
จัดให้คนไข้ได้มีสิ่งแวดล้อมที่ถูกหลักอนามัย เรียบร้อย และปลอดภัย ป้องกันและควบคุมการเผยแพร่ของโรคติดเชื้อ สอนคนไข้ ครอบครัวคนไข้และประชาชนทั่วไปให้รู้จักรักษาและส่งเสริมสุขภาพอนามัย
จะเข้าศึกษาเป็นพยาบาลต้องสำเร็จชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 สายวิทยาศาสตร์ แล้วสอบเข้าเรียนต่อที่คณะพยาบาลศาสตร์ในมหาวิทยาลัยของรัฐหรือเอกชน หลักสูตร 4 ปี สถาบันที่เปิดสอนมี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒประสานมิตร มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ มหาวิทยาลัยสยาม มหาวิทยาลัยรังสิต มหาวิทยาลัยบูรพา มหาวิทยาลัยขอนแก่น มหาวิทยาลัยมหาสารคาม มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร